หลังจากการไปเรียนมาทั้งเทอม หลังจากการทำงานทั้งเดือน หลังจากการใช้ชีวิตประจำวันอันหนักหน่วงของแต่ละคนแล้ว เราก็คงจะอยากให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยมื้อพิเศษที่มีอาหารอร่อยๆกันใช่มั๊ยล่ะคะ
วันนี้พีชจะพาทุกคนมารู้จักกับ Craving Brunch ที่ห้องอาหาร Crave Wine Bar & Restaurant ณ โรงแรม Aloft Bangkok สุขุมวิท 11 ♥
พีชเดินทางด้วยบีทีเอส สะดวกสุดอะไรสุด ลงสถานีนานาเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็มองหาป้ายบอกทาง นั่นก็คือทางออกที่ 3 นั่นเอง
ลงจากบันไดบีทีเอสมาแล้วก็จะเจอป้ายสุขุมวิท 11 เลย ย่านนี้พลุกพล่านมั่ก
เดินเข้ามาอีกซักประมาณ 10 นาทีก็จะเจอกับตึกกราฟฟิตี้สีสวยแบบนี้
ถึงแล้วเด้อ
อันนี้เป็นลิฟท์ตัวนอกที่สามารถกดขึ้นไปชั้น Crave ได้เลย
ตัวเบ้อเร่อเท่อ กดสิคะรออะไร๊ ชั้น 8 นะเออ
บรรยากาศทางเข้า ดูหรูหราสุด นี่แหละ คือ ห้องอาหาร เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเทอรองส์
ห้องอาหาร เครฟ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ เป็นห้องอาหารสุดชิค ใจกลางสุขุมวิท
ตั้งอยู่บนชั้น 8 ของโรงแรม อลอฟท์ ออกแบบและตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเน้นความโปร่งสบาย
เสิร์ฟทั้งอาลาคาร์ทและบุฟเฟ่ต์นานาชาติ โดยเชฟผู้มีประสบการณ์ที่ได้เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดี
และปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ถึงล้าวววววววววววว โอ้ยหิวไส้จะขาด
อ้ออ ขอบอกก่อนเลยนะคะว่า Craving Brunch เนี่ย เค้าจะมีทุกๆ เสาร์ที่สามของเดือน
เดินเข้ามาก็ไม่รีรอที่จะสำรวจเมนูอาหารต่างๆ
มีทั้งไส้กรอก เนื้อวัว กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเชลล์ ปลาหมึก ซึ่งตรงนี้เราต้องหยิบๆเลือกๆแล้วส่งให้กุ๊กทำการเผา ใช้เวลาแปปเดียวก็ได้ทานแล้ว คือแบบทุกอย่างสด ใหม่ เนื้อหว๊าน หวาน
โซนนี้อยู่ติดกันกับอาหารทะเลด้านบนเลย แต่พีชไม่ใช่สายผัก สายเฮลธี่ เลยได้แต่ยืนชื่นชม :P
ถัดมาอีกก็มีเมนูข้าวกับอาหารต่างๆ หมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง เนื้อวัว โอ้ย สารพัดสารเพ
และนี่คือมุมโปรดของดิชั้นเองงง เพราะว่ามีแซลมอนยังไงล่ะ >0<
ยำแซลมอนแบบดีมากกก แซ่บมาก แล้วพี่กุ๊กก็ใจดี แล่เป็นซาชิมิให้ทานด้วย
ขนมวงขนมหวานตั่งต่างก็มีนะจ๊ะ เลือกได้ตามอัธยาศัยเลย ส่วนตัวพีชปลื้มเค้กเฟอเรโร่มากกกก
รสชาติเข้มข้นถึงใจ พูดแล้วยังจำรสชาตินั้นได้อยู่เลยแหละ
ขนมปังทานเล่นก็มี พุดดิ้งก็มา เรียกได้ว่ามาที่เดียว ครบ จบทุกสิ่ง
หยิบเลือกทานได้เลย พี่ๆทุกคนแนะนำอาหาร และ บริการดีมากก
จัดมาเบาๆ ตามสไตล์ผู้หญิงบอบบางอย่างดั๊น
ขนมหวานอร่อย อยากอยู่ที่นี่ทั้งวันเลย T T แต่มีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงเองง่าาา ตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น
ส่วนใครที่ต้องการผลไม้ ทางห้องอาหารก็มีจัดไว้ให้ด้วยนะเออ
ขอตบท้ายด้วย ไอติม นี่บอกเลยนะว่าขาดไม่ได้เลยจริงๆสำหรับแต่ละมื้อ
พีชชอบ salted caramel ที่สุด อร่อย กลมกล่อมตัดเค็ม
และสำหรับสายแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 899 บาท เพื่อดื่มด่ำไปกับเค้าเลยค่ะ
โดยรวมพีชว่าบรรยากาศดี บริการดี พีชชอบที่ตอนเราลุกออกไปจากโต๊ะเพื่อไปหยิบอย่างอื่นเพิ่มเนี่ย ถ้าทิ้งจานที่มีความเลอะเทอะจากการทานไว้ หรือว่าถ้ามีเศษกุ้งอะไรแบบเนี้ย พี่ๆเค้าก็จะมาเก็บจานแล้วเปลี่ยนใหม่ให้ เป็นสิ่งที่ร้านอาหารหลายๆร้านบนโรงแรมไม่ค่อยทำกัน แต่ที่นี่ทำ ซึ่งมันหมายถึง service ที่ดี ประทับใจ แล้วในเรื่องของอาหารเนี่ย พีชปลื้มมากเพราะราคาบุฟเฟต์ไม่ได้แพงเลย เพียงแค่ 599 บาทเท่านั้น แต่ได้อาหารคุณภาพดีแบบนี้ รสชาติแบบนี้ เมนูหลากหลาย บอกตรงๆเลยนะ พีชว่าคุ้มสุดๆแล้วสำหรับพีชอะ ใครที่กำลังมองหาบุฟเฟต์โรงแรมดีๆ นี่แนะนำเลยนะ
ปล.นอกห้องอาหารชั้นล็อบบี้มีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจด้วยนะจ๊ะ ♥
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
