10/7/60

อัดแน่นความรู้ เตรียมไฟท์ e-Commerce ด้วยกลยุทธ์ Omnichannel


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้ สมัยนี้ เทคโนโลยีก้าวล้ำมากขึ้น จากที่เราๆเคยซื้อของที่ตลาด ห้างสรรพสินค้า ก็หันมาช็อปออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ธุรกิจ e-Commerce มาแรงมั่ก 
ตัวพีชเองก็เป็นแม่ค้าออนไลน์คนนึงเหมือนกัน ขายของจุ๊กจิ๊กกิ๊บเก๋ ซึ่งอยากจะบอกว่าเค้ามีสิ่งใหม่ที่เรียกว่า Omnichannel อันที่จริงนางก็เกิดนวัตกรรมนี้มาตั้งห้าปีก่อนแล้วนะ แต่เพิ่งจะมาบูมในช่วงนี้แหละ ล่าสุด ได้ไปร่วมงาน Priceza eCommerce Talk ซึ่งเป็นการสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์
เค้าจัดมาสามครั้งแล้วนะ แล้วครั้งนี้ก็ได้จัดขึ้นที่ AIS DC ห้าง Emporium ชั้น 5
บรรยากาศมีความเก๋ Beyond สุดๆ นึกว่าอยู่ในหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส หรูเบอร์นั้นเลยเธอ
หนังสือนี่มีเพียบ ความรู้อัดแน่นมากเวอร์ แต่ส่วนที่พีชเข้าไปฟังนั้นเป็นสตูดิโอเก๋ๆด้านในค่าา

Omnichannel ในความหมายของพีช คือการที่เราซื้อของจากหน้าร้าน แล้วมีประสบการณ์กับทางออนไลน์ หรือแม้แต่ ออนไลน์ แล้วมีประสบการณ์กับทางหน้าร้าน
ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ เราขายของออนไลน์ด้วย มีหน้าร้านด้วย ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่ก็อยากจับ
อยากสัมผัส อยากทดลองกับของชิ้นนั้นๆอยู่แล้ว ก็จะได้มีโอกาสที่ต้องการ เพื่อเป็นการดูของ
ก่อนจะตัดสินใจซื้อจริงๆ แล้วใครหลายๆคนก็ต้องเป็นเหมือนพีชแน่ๆ เวลาจะซื้อของในห้างเงี้ย
ก็ต้องเปิดหาราคา ( ซึ่งขอแนะนำเว็ป - แอพ Priceza ค่ะซิส ดีมากเว่อ)
นอกจากนั้นก็ดูรีวิว ซึ่งนี่แหละ เป็นตัวอย่างง่ายๆของ Omnichannel 
เพราะการขายของเพียงช่องทางเดียวมันไม่พอแล้ว

โดยในงานก็มีวิทยากร 3 ท่านด้วยกัน
ได้แก่
1. คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO & Co-founder ของบริษัท Priceza
2. คุณเชษฐ สุทธิธนานนท์ Managing Parter บริษัท SO IDEA
และ
3. คุณกวิน โศภิษฐ์พงศธร Head of Sales บริษัท DHL


เริ่มจากท่านแรก คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ได้พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Omnichannel
ในแง่ของการที่ลูกค้าต้องการเปรียบเทียบราคาสินค้า และ บริการ เมื่อไปถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว
เพราะแทบจะทุกคนมี Smartphone เป็นของตัวเอง ผู้บริโภคต้องการของที่ราคาถูกที่สุด
ของที่อยู่ในคุณภาพเดียวกัน และถ้าหากออนไลน์มีการจัดส่งหลากหลาย สามารถคืนของได้
และเป็นสินค้าแบบเดียวกับออฟไลน์ (ที่จับต้องได้ ที่อยู่ตรงหน้า) แล้วล่ะก็ คงไม่มีใครลังเลที่จะซื้อออนไลน์เลย ห้างอย่างบิ๊กซี ก็เริ่มทำ Omnichannel แล้ว โดยการให้ลูกค้าสั่งซื้อผ่านเว็ป แล้วไปรับที่บิ๊กซีสาขาใกล้บ้าน หรือแม้แต่สั่งที่ห้างแล้วค่อยให้ข้อมูลออนไลน์เพื่อการจัดส่ง สะดวกสุดๆ
การทำธุรกิจแบบนี้ สถานที่เยอะๆ สาขามากมาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นสิ่งได้เปรียบต่อไป
แต่เป็นการเพิ่มเงินทุน มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นต่างหาก ทุกคนที่ทำมาค้าขายจึงควรศึกษากลยุทธ์นี้ไปใช้
แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ที่เปิดตัวด้วยการขายหนังสือออนไลน์เนี่ย เค้าก็มีการจัดตั้งช็อป Amazon Books ทั่วประเทศอเมริกาแล้ว เพราะเค้าต้องการที่จะทำธุรกิจแบบ Omnichannel 

ต่อมาท่านที่สอง คุณเชษฐ สุทธิธนานนท์ ได้กล่าวถึงเรื่องของการตลาดดิจิตอล ว่าเราควรจะให้ข้อมูล เทคโนโลยีต่างๆที่ลูกค้าอยากรู้และควรจะรู้ ผู้ขายควรที่จะสังเกตลูกค้าว่าเป็นกลุ่มแบบไหน
อย่างเช่น ถ้าเป็นผู้หญิง เธอจะชอบอะไร ชอบน้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
หรือถ้าเป็นลูกค้าผู้ชาย เขาจะชอบอะไร ชอบรถ ชอบหนังสือ ชอบอุปกรณ์กีฬา ฯลฯ
ควรที่จะสร้างความเฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าไปเลย จะได้เพิ่มความประทับใจ
เพราะการขายแบบ personality มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะขายออก เพราะเป็นความชอบส่วนตัว
ทั้งยังพูดถึงเรื่องของวัฒนธรรมคนเอเชีย (ไม่ใช่เฉพาะคนไทย) 
ว่า เอเชียเราชอบการบริการ ชอบให้คนมา service ชอบการสื่อสาร ชอบการเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่
แตกต่างกับ western เพราะคนส่วนมากนั้นชอบการบริการตนเอง หรือที่เรียกว่า self-service 

และท่านสุดท้าย คุณกวิน โศภิษฐ์พงศธร พูดถึงเรื่องของกรณีศึกษาของ Omnichannel
การเพิ่มช่องทางการขายเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะการค้าขายช่องทางเดียวนั้นไม่เพียงพอแล้วในปัจจุบัน บริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้าต้องปิดตัวลงเพราะไม่ปรับเปลี่ยนการขายให้อยู่ในสองระบบ กล่าวคือทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มีจำนวนสาขามากเกินความจำเป็น เลยทำให้งบประมาณสูง Omnichannel ต้องการพึ่งพาการขนส่งอย่างมาก เพราะลูกค้าโดยมากแล้วชอบให้ส่งของไปที่บ้าน หลีกเลี่ยงรถติด เลี่ยงการแบกของ และ เกี่ยวกับเรื่องของเวลา


โดยสรุปแล้ว พีชคิดว่าการให้ลูกค้าของเรามีประสบการณ์กับของที่เราขายเนี่ย จำเป็นมากๆ
คือถ้าลูกค้าเค้าสอบถามเราผ่านทางออนไลน์ แล้วไม่ซื้อ ก็ไม่เป็นไร เพราะเค้าได้ข้อมูลมาจากเราแล้วไง แล้วก็ถ้าเค้าไปดูของจริง แล้วชอบขึ้นมา เค้าก็จะซื้อ อย่างที่บอกเลยว่าการขายของไม่จำเป็นที่จำต้องเป็นช่องทางเดียวแล้ว หรืออย่างบางทีเราขายของหน้าร้าน ออฟไลน์ เราแปะรีวิวจากเน็ต หรือเราจะแปะ QR Code ให้ลูกค้าดู ให้ลูกค้าติดต่อเรามา ก็ย่อมทำได้ ดีงามพระรามเก้าจริงๆ

หวังว่าบล็อกนี้ทุกคนคงจะได้สาระกันไปพอสมควรนะคะ 
บ๊ายบาย
xoxo